
วันที่ 14 ก.พ.66 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง (ศพดส.ตร.) เปิดเผยถึงการจับกุมคดีที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ตในปี 65 ว่า ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต (TICAC) สามารถจับกุมได้ทั้งหมด 482 คดีเพิ่มขึ้นจากปี 64 ถึง 403 คดีขยายผลเป็นคดีค้ามนุษย์จำนวน 41 คดี ถือเป็นสถิติสูงที่สุดในรอบ 8 ปี
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงปัญหาการละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ตว่า วันนี้ (13 ก.พ.66) ได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมและอภิปรายในหัวข้อเรื่อง “ความก้าวหน้าการดำเนินงานขจัดความรุนแรงต่อเด็กในประเทศไทย” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมระดับชาติเพื่อทบทวนและให้ข้อเสนอแนะต่อการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ ว่าด้วยการขจัดความรุนแรงต่อเด็กในภูมิภาคอาเซียน พ.ศ.2559-2568 ที่อาคารแกรนด์พาลาซโซ่ โรงแรมเดอะพาลาซโซ่ ตนได้นำเสนอความก้าวหน้าในการพัฒนาและขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการว่าด้วยการขจัดความรุนแรงต่อเด็กในภูมิภาคอาเซียนในหลายๆด้านตามตัวชี้วัดที่กำหนด อาทิเช่น ด้านการป้องกัน ได้จัดทำโครงการ DARE 2 CARE ซึ่งอบรมความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำสถานีตำรวจทั่วประเทศ ให้เข้าใจวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องกับเด็กในกระบวนการยุติธรรม เพื่อนำไปถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็กและเยาวชนในสถานศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งในปี 65 ได้อบรมไปแล้วมากกว่า 14,660 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งพัฒนาสื่อสร้างสรรค์ทั้งแบบรูปเล่มและออนไลน์ เพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย และ ด้านการคุ้มครองและช่วยเหลือผู้เสียหาย ได้ดำเนินการเพิ่มช่องทางการรับแจ้งเหตุทางออนไลน์ เพื่อให้ผู้เสียหายสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างรวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังได้สร้างช่องทางติดต่อระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถบูรณาการ่วมกันได้ และยังได้นำกลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) เพื่อนำมาขับเคลื่อนการให้การช่วยเหลือและเยียวยาผู้เสียหายให้เป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ส่วน ด้านการปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ได้มีการเพิ่มความผิดเกี่ยวกับการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเอง และเพิ่มบทเพิ่มโทษกรณีมีไว้เพื่อประสงค์การค้า รวมทั้งยังได้แก้ไข พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยเพิ่มความครอบคลุมถึงคุ้มครองสิทธิของกลุ่มเปราะบาง ชนกลุ่มน้อย คนต่างด้าว ให้มีสิทธิรับประโยชน์ในทรัพย์สินของผู้กระทำผิดมูลฐานคดีค้ามนุษย์ด้วย